19 ตุลาคม 2554

เมนูปลาช่อนผัดฉ่า

ปลาช่อนผัดฉ่า
เมนูปลาสูตรนี้สามารถใช้ปลาอื่นแทนปลาช่อนได้ตามที่แต่ละคนชอบได้เลย

ส่วนผสมเครื่องแกงเมนูปลาช่อนผัดฉ่า
พริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่ 6 เม็ด
ข่าหั่นละเอียด 3 ช้อนชา
กระชายหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเครื่่องแกงเมนูปลาช่อนผัดฉ่า
โขลกส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้

ส่วนผสมปลาช่อนผัดฉ่า
ปลาช่อนหั่นชิ้นพอคำ 1 ตัว
พริกไทยอ่อน 5 ช่อ
กระชายหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา 1 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 2 เม็ด
น้ำปลา 3 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
น้ำมันพืชสำหรับทอดปลา

1. ทอดปลาในน้ำมันร้อน (ไฟปานกลาง) จนสุกเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอมปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย เติมน้ำลงไปผัดพอเข้ากัน
3. ใส่ปลาช่อนที่ทอดไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วจึงใส่พริกไทยอ่อน กระชาย ใบมะกรูดใบโหระพา และพริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักปลาช่อนผัดฉ่าใส่จาน เสิร์ฟได้ทันที


15 ตุลาคม 2554

เมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม

เมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม
ปลาที่จะใช้ในเมนูนี้นั้น ก่อนที่จะลงมือปรุงอาหาร เราต้องทำการบั้งตัวปลาตะเพียนให้เป็นริ้วถี่ ๆ เสียก่อน เพื่อให้ก้างปลาขาดจากกันและง่ายต่อการรับประทานหรือใครจะประยุกต์ใช้ปลาทูสดแทนปลาตะเพียนได้ โดยใช้สัดส่วนของเครื่องปรุงรสที่เท่ากัน
และเพิ่มปริมาณปลาทูได้ตามชอบ





ส่วนผสมเมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม
ปลาตะเพียนขนาดกลาง 2 ตัว
อ้อยสดหั่นเป็นท่อนยาว 3 นิ้ว บุญพอแตก 3 ท่อน
ขิงแก่หั่นเป็นแว่น 6-7 แว่น
รากผักชีบุบ 2 ราก
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนชา
กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 15 เม็ด
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำเมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม
1. ขอดเกล็ด ควักไส้ปลาออก ล้างให้สะอาด แล้วบั้งตัวปลาเป็นริ้วถี่ๆ พักไว้
2. วางอ้อย ขิง รากผักชีบุบลงในหม้อ ตามด้วยปลาตะเพียน ใส่น้ำพอท่วม เติมน้ำมะขามเปียก ซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ และเกลือลงไป ต้มด้วยไฟแรง พอเดือด แล้วลดไฟอ่อน
3. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยเข้าด้วยกัน แล้วผัดกับน้ำมะนจนมีกลิ่นหอม ตักใส่หม้อต้มเค็ม คนพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วเคี่่ยวจนส่วนผสมเข้าเนื้อปลา ตักปลาตะเพียนต้มเค็มเสิร์ฟร้อนๆ

11 ตุลาคม 2554

เมนูปลารากกล้วยยำส้มโอ

เมนูปลาสูตรนี้ได้นำปลารากกล้วยซึ่งเป็นปลาน้ำจืด มีชื่อเรียกในภาษาอีสานว่า "ปลามัน" หรือ "ปลามูด" สำหรับชื่อในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า "ปลาค้อหน้าม้า" (Horseface loach)
ตัวไม่โตมาก โดยทั่วๆ ไปจะยาวประมาณ 5-14 ซม. ลักษณะของปลานั้นจะมีลำตัวยาวเล็ก หัวแหลม หางแหลม ตาเล็ก กลางลำตัวมีเส้นสีเทาจากหัวถึงหางระหว่างเส้นมีจุดสีดำเป็นแนวยาว ครีบหางเว้าตื้น ปลาประเภทนี้จะมีมีพฤติกรรมชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ ในพื้นท้องน้ำที่มีกรวดทรายมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว สามารถมุดทรายได้ดีเวลาตกใจหรือซ่อนตัวจากสัตว์นักล่า จนได้อีกชื่อหนึ่งว่า "ซ่อนทราย" พบครั้งแรกที่แม่น้ำในเมืองปาเล็มบัง เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย สำหรับในนประเทศไทยพบที่แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำสาลาละวิน

การบริโภคปลาชนิดดนี้นิยมบริโภคด้วยการรับประทานทั้งตัวและก้าง เนื่องจากเป็นปลาขนาดเล็ก โดยนำมาทำเป็นอาหารได้หลายอย่างทั้งการปรุงสดและตากแห้ง โดยเมนูที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ ปลารากกล้วยทอดกระเทียม รับประทานกับข้าวต้ม สำหรับการปรุงสดสามารถทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ต้มยำ แต่ครั้งนี้เราจะนำเสนอการนำปลารากกล้วยมาทอดและยำกับส้มโอ ส่วนส้มโอนั้นมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมาะสำหรับนำมาทำเมนูยำได้อย่างดี

ส่วนผสมเมนูปลารากกล้วยยำส้มโอ
ปลารากกล้วยทอดกรอบ 100 กรัม
กุ้งแห้งป่น 3 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวคั่ว 1/4 ถ้วย
ส้มโอแกะเป็นชิ้น 1 ถ้วย
หอมเล็กซอย 3-4 หัว
กระเทียมกลีบใหญ่ซอย 4-5 กลีบ
ใบมะกรูดซอย 4 ใบ
พริกขี้หนูแดงสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 4 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ผักสดต่างๆตามชอบ

1. ผสมพริกขึ้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ
2. ใส่ปลารากกล้วย ส้มโอ หอมเล็ก กระเทียมใบมะกรูด กุ้งแห้งปน และมะพร้าวคั่วลงไป เคล้าพอเข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับผักสดต่าง ๆตาม ชอบ
เมนูปลารากกล้วยยำส้มโอ ปลารากกล้วย


22 กันยายน 2554

เมนู ผัดฉ่าปลากะพง


ส่วนผสมและเครื่องปรุง เมนู ผัดฉ่าปลากะพง
ปลากะพงแล่เนื้อหั่นชิ้นบางๆ 300 กรัม
กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
กระชายหั่นฝอย ½ ถ้วยตวง
พริกไทยอ่อน ¼ ถ้วยตวง
ใบมะกรูดฉีกก้านกลางออก 5 ใบ
พริกชี้ฟ้าสีแดง เขียวหั่นแฉลบ 6 เม็ด
น้ำปลาดี ¼ ถ้วยตวงใบโหระพา ½ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับผัด
½ ถ้วยตวง
น้ำซุป ½ ถ้วยตวง


1.ใส่นำมัน ใส่กระทะตั้งไฟพอร้อน ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูผัดจน หอม ใส่ปลากะพงผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ซอสปรุงรส พริกไทยป่น น้ำซุป ผัดให้เข้ากัน
2.ชิมรส เมื่อรสดีแล้วจึงใส่กระชาย พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด พริกไทยอ่อน ผัดพอสุก ใส่ใบโหระพาผัดให้เข้ากัน ยกลง จัดใส่จานพร้อม เสริ์ฟ



14 กันยายน 2554

เมนูพล่าปลากะพงกรอบ

เมนูพล่าปลากะพงกรอบ
เมนูปลาสูตรนี้สามารถดัดแปลงจากเนื้อปลาเป็นกุ้งก็ได้ตามชอบ และถ้าใครไม่อยากทานอาหารทอดๆ ก็จะสามารถนำเนื้อปลาไปลวกแทนก็ได้

เครื่องปรุงและส่วนผสมของเมนู พล่าปลากะพงกรอบ
เนื้อปลากะพงขาวแล่เป็นชิ้นบาง 300 กรัม
แครอทซอยเป็นเส้น ¼ ถ้วย
กระเทียม และหอมเล็กซอย อย่างละ 3 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย ½ ช้อนโต๊ะ
พริกป่น ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งชุบทอดสำเร็จ ½ ถ้วย
น้ำเปล่า ½ ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับทอด
ผักกาดหอมหรือผัดสดสำหรับรับประทานกับพล่า ตามชอบ

1. ผสมแป้งชุบทอดกับน้ำเข้าด้วยกัน น้ำเนื้อปลามาชุบให้ทั่วแล้วทอดในน้ำมันร้อน(ไฟปานกลาง) จนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันแล้วจัดใส่จาน
2. ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทรายพริกขี้หนู และพริกป่นเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่แครอท กระเทียม หอมเล็ก ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปเคล้าให้เข้ากัน แล้วตักราดลงบนเนื้อปลาที่ทอดไว้ รับประทานกับผักสดต่าง ๆ ตามชอบ


11 กันยายน 2554

เมนูปลา ปลาคลุกขมิ้น

เมนูปลา ปลาคลุกขมิ้น
เมนูปลาสูตรนี้เป็นอาหารจากภาคใต้ และถ้าใครอยากเปลี่ยนรสชาติก็สามารถเปลี่ยนจากปลาเป็นไก่ก็ได้ตามชอบ และการทอดนั้น ถ้าทอดกระเทียมและขมิ้นพร้อมกับปลา จะทำให้กระเทียมและขมิ้นไหม้ก่อนเนื้อปลาจะสุก

เครื่องปรุงและส่วนผสมของเมนูปลา ปลาคลุกขมิ้น
ปลาแดงหรือปลากะพงขาวขนาดกลาง 2 คตัว
กระเทียมกลีบเล็ก ใช้ทั้งเปลือก 1/2 ถ้วย
ขมิ้นชันหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด

1. ทาเกลือลงบนตัวปลาให้ทั่ว พักไว้
2. โขลกกระเทียมกับขมิ้นเข้าด้วยกันพอหยาบแล้วนำมาทาให้ทั่วตัวปลา พักไว้ประมาณ20-30 นาที
3. ปาดส่วนที่เป็นกระเทียมและขมิ้นออกนำไปเจียวในน้ำมันร้อน (ไฟปานกลาง)จนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ทอดปลาในน้ำมันที่เหลือจนสุกกรอบทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมและขมิ้นทอดกรอบ


27 สิงหาคม 2554

เมนูปลากระบอกต้มน้ำมะขาม

เมนูปลากระบอกต้มน้ำมะขาม
ส่วนผสมเมนูปลากระบอกต้มน้ำมะขาม
ปลากระบอก 500 กรัม
พริกชี้ฟ้าแดง 1-2 เม็ด
สับปะรด 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ใบสะระแหน่สับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 5 ถ้วยตวง
มะเขือเทศลูกเล็ก 2-3 ลูก
น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3-4 ช้อนโต๊ะ
ผักชี 1 ต้น
หอมแดงเจียว

1. ปลากระบอกหั่น 1-2 ท่อนต่อตัว ล้างน้ำพักให้สะเด็ดน้ำ
2. ต้มปลาในน้ำเดือดนาน 5 นาที ตักขึ้นพักไว้ ส่วนน้ำที่ต้มปลานำมาทำเป็นน้ำซุป
3. ต้มน้ำซุปให้เดือดอีกครั้ง ใส่สับปะรด พริกชี้ฟ้า ต้มต่อสักครู่ ใส่น้ำมะขามเปียก มะเขือเทศ ต้มต่อให้เดือดอีกครั้งตักฟองบนน้ำซุปออก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย แล้วจึงใบสะระแหน่สับ และผักชี
4. เวลาเสิร์ฟตักชิ้นปลาใส่ถ้วย เติมน้ำซุปและโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว

25 สิงหาคม 2554

เมนูปลาผัดฉ่าปลากะพง

เมนูปลาผัดฉ่าปลากะพง
เมนูปลาสูตรนี้จะใช้ส่วนผสมที่เป็นเครื่องสมุนไพรเยอะสักหน่อย เพื่อดับกลิ่นคาวปลาและเพิ่มรสชาติที่เผ็ดร้อนให้กับเนื้อปลา

ส่วนผสมเมนูปลาผัดฉ่าปลากะพง
ปลากะพงแล่เนื้อหั่นชิ้นบางๆ 300 กรัม
กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
กระชายหั่นฝอย ½ ถ้วยตวง
พริกไทยอ่อน ¼ ถ้วยตวง
ใบมะกรูดฉีกก้านกลางออก 5 ใบ
พริกชี้ฟ้าสีแดง เขียวหั่นแฉลบ 6 เม็ด
ใบโหระพา ½ ถ้วยตวง
น้ำปลาดี ¼ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับผัด ½ ถ้วยตวง
น้ำซุป ½ ถ้วยตวง

1.นำน้ำมัน ใส่กระทะตั้งไฟพอร้อน
2. ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูผัดจน หอม ใส่ปลากะพงผัดพอสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ชอสปรุงรส พริกไทยป่น น้ำซุป จัดให้เข้ากันชิมรส
3.ใส่กระชาย พริกขี้ฟ้า ใบมะกรูด พริกไทยอ่อน ผัดพอสุก ใส่ใบโหระพาผัดให้เข้ากัน ยกลง จัดใส่จานพร้อม เสริ์ฟ


18 สิงหาคม 2554

สายบัวต้มกะทิกับปลา

สายบัวต้มกะทิกับปลา
ส่วนผสมสายบัวต้มกะทิกับปลา
1.สายบัว (สีเขียว) ลอกใย 1/2 กิโลกรัม
2.ปลาทูนึ่ง 5 ตัว
3.มะพร้าวขูดขาว 1/2 กิโลกรัม
4.หัวหอมแดง 1 ขีด
5.พริกไทย 1 ช้อนชา
6.กะปิ 1 ช้อนชา
7.น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และน้ำมะดัน

1.นำสายบัวมาลอกเปลือกนอกออก โดยหักสายบัวอย่าให้ขาดจากกัน ค่อยๆ ดึงตามแนวยาวลงมาให้สายใยลอกออกจากก้านบัว แล้วหักสายบัวให้ยาวประมาณ 2 นิ้ว แช่ในน้ำผสมน้ำมะนาว จะได้ไม่ดำ
2.มะพร้าวขูดขาวควรซื้อที่ตลาดสดเพื่อให้แม่เค้าคั้นแยกเป็นส่วนหัวครึ่งถ้วยตวง และหางกะทิสัก 2 ถ้วยตวง การที่ใช้มะดัน เพื่อให้ออกรสเปรี้ยวหอมโดยที่น้ำแกงกะทิไม่ดำ นำมะดันมาล้างให้สะอาด
3.หม้อต้มน้ำจนเดือด พอมะดันเปื่อยยกลงทั้งให้เย็นขยำเอาเม็ดออก หันมาโขลกเครื่องแกง มีหัวหอมพริกไทย กะปิ และเนื้อปลาทูนึ่งแกะแล้วสักครึ่งตัวโขลกรวมกันให้ละเอียด แล้วละลายเครื่องในหางกะทิ นำไปตั้งไฟจนเดือด ใส่ปลาทู และหัวกะทิจนเดือดอีกครั้ง จึงใส่น้ำมะดันแล้วชิมรสตามชอบใจ

16 สิงหาคม 2554

ปลาม้วน

ปลาม้วน
ปลาม้วนเป็นปลานึ่งซีอิ๊ว โดยดัดแปลงทำให้รับประทานง่ายไม่มีก้าง โดยนำปลามาแล่เนื้อก่อน ปลาที่เลือกนั้นต้องเป็นปลาสด เพราะเนื้อปลาจะขาว เวลาม้วนเนื้อจะเด้งและหยุ่น ไม่เละ ไม่มีกลิ่นคาว

ส่วนผสมของปลาม้วน
ปลากะพงขาว (ตัวละ 550 กรัม) 2 ตัว
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว 3 ต้น
ต้นหอมหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว 3 ต้น
ขิงซอย 1/2 ถ้วย
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนุ่มหั่นเสี้ยว 2 ดอก
พริกชี้ฟ้าสีแดงและเหลืองหั่นเฉียง 2 เม็ด
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
จิ๊กโฉ่

ไส้ปลาม้วน
เนื้อกุ้งสับ 80 กรัม
มันหมูสับ 25 กรัม
เนื้อปูนึ่งแกะ 100 กรัม
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำซีอิ๊วสำหรับราดปลา
น้ำซุปหมู 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วญี่ปุ่ น 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 1/2 ช้อนชา
เหล้าจีน 1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำปลาม้วน
1. ทำไส้โดยผสมเนื้อกุ้งและมันหมูเข้าด้วยกันในอ่างผสม ใส่เนื้อปู เกลือ และพริกไทยผสมให้เข้ากัน นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาไว้
2. ขอดเกล็ดปลา ควักไส้ออก ล้างให้สะอาด แลเเนื้อปลาทั้งสองด้าน ใช้มีดค่อย ๆลอกเอาหนังออก นำไส้ที่ผสมใส่ตรงกลางเนื้อปลา ม้วนให้ให้อยู่ตรงกคาง จะได้ปลาม้วนทั้งหมด 4 ชิ้น
3. นำปลาม้วนไปนึ่งลังถึงบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรงนาน 5 นาที ระหวางที่นึ่งปลาให้ทำน้ำซีอิ๊วสำหรับราดปลาโดยเคี่ยวน้ำซุปหมูในหม้อให้เดือด ใส่ซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำมันหอยน้ำตาล น้ำมันงา และเหล้าจีน คนให้ทั่ว ชิมรสพอให้มีรสเค็มอ่อนๆ ใส่พริกไทย ปิดไฟ
4. พอนึ่งปลาจนครบเวลา วางขึ้นฉ่าย ต้นหอม ขิง เห็ดหอม และพริกชี้ฟ้า บนเนื้อปลาตั้งกระทะน้ำมันให้เดือด ตักน้ำมันที่เดือดราดบนผักพอสลด ราดน้ำซีอิ๊ว นึ่งต่ออีก 2นาที หรือจนปลาสุก ยกเสิร์ฟร้อนๆกับจิ๊กใฉ่

29 กรกฎาคม 2554

ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ไข่กรอบ

เมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทูไข่กรอบนี้เป็นเมนูของคนที่รักสุขภาพอีกเมนูเลยก็ว่าได้ เพราะน้ำพริกและเนื้อปลาทูนั้นดีต่อสุขภาพมาก กินแกล้มกับผักสดๆ อร่อยอย่าบอกใครทีเดียว วันหลังทดลองทำทานเองที่บ้านได้นะครับ น่าลองเมนูปลา เมนูนี้

ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ไข่กรอบ


ส่วนผสม
ข้าวกล้องหุงสุก 2 ถ้วย
ปลาทูสด 2 ตัว
กระเทียมกลีบใหญ่ 1 หัว
หอมเล็ก 5 หัว
พริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง อย่างละ 3 เม็ด
น้ำมะนาว 5-6 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ไข่ทอดกรอบตามชอบ


วิธีทำ

1.ย่างปลาทูด้วยไฟอ่อน หรือจี่บนกระทะร้อนจนกระทั่งเนื้อปลาสุก พักให้เย็นแล้วแคะใช้เฉพาะส่วนที่เป็นเนื้อ
2.เผากระเทียม หอมเล็ก และพริกชี้ฟ้าจนสุก ปอกเปลือกออกแล้วโขลกจนละเอียด ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ในข้อ1.ลงไปโขลกพอเข้ากัน
3.ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย ผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
4.คลุกข้าวกล้องกับน้าพริกพอเข้ากัน แล้วนำไปผัดในกระทะ (ไฟปานกลาง) ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยไข่ทอด
กรอบ เสิร์ฟพร้อมผักสดต่างๆตามชอบใจ
***ผักสดต่างๆ เช่น ถั่วพู ถัวฝักยาว ผักกาดขาว มะเขือเปราะ ฯลฯ

ส่วนผสมไข่กรอบ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
แป้งชุบทอดสำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำไข่กรอบ
1.ต่อยไข่ลงในห้วยหรือชาม ใส่แป้งชุบทอดลงไปตามด้วยน้ำปลา ตีผสมให้เข้ากัน
2.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่ไข่ที่เตรียมไว้ในข้อแรกลงไป ทอดด้วยไฟปานกลาง
พอไข่เริ่มสุกใช้ตะหลิวยีให้ไข่กระจายตัวออกจากกันแล้วทอดต่อจนกระทั่งเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน


*** ถ้าไม่มีปลาทูสด ใช้ปลาทูนึ่งแก้ขัดก่อนก็ได้ อร่อยไปคนล่ะแบบ

1 กรกฎาคม 2554

ลาบปลายี่สก

ปลายี่สกเป็นปลาน้ำจืด ที่มีก้างในเนื้อเยอะ เวลากินต้องเอาก้างออกให้หมด ไม่งั้นจะติดคอได้ มีเมนูที่สามารถนำเนื้อปลายี่สก มาทำได้ไม่มากเหมือนปลาทั่วๆไป เมนุหนึ่งที่น่าสนใจคือ “ลาบปลายี่สก”
ลาบปลายี่สก


ส่วนผสม
ปลายี่สกขนาดกลาง 1 ตัว
หอมเล็กซอย 1/4 ถ้วย
ข่าแก่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีใบเลื่อยซอย 1 ถ้วย
ต้นหอมชอย 2 ต้น
ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 4 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ
1.ขอดเกล็ดปลายี่สก ควักไส้ ล้างทำความสะอาดปลา แล่เอาแต่เนื้อทั้งสองด้านออก แล้วขูดเฉพาะเนื้อด้านในออกมาสับจนละเอียด จะได้เนื้อปลาประมาณ 1 1/2 ถ้วย
2.รวนเนื้อปลาให้สุก เติมน้ำลงไป พอเดือดยกลงใส่ข่าลงไปเคล้าพอเข้ากัน
3.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และข้าวคั่ว
4.ใส่หอมเล็ก ผักชีใบเลื่อย ต้นหอม และใบสะระแหน่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสให้ถุกใจ ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักสด
ต่างๆได้ทันที ผักสดต่างๆที่กินกับลาบปลายี่สก เช่น ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ใบโหระพา กะหล่ำปลี เป็นต้น

27 มิถุนายน 2554

ผัดฉ่าปลากะพง

เมนูปลา วันนี้เป็นเมนูผัดฉ่าปลากะพง ดีสำหรับคนที่ชอบทานปลา ปลาดีต่อสุขภาพ ทานเยอะได้ยิ่งดี มีโอเมก้า-3 บำรุงสมอง
วิธีทำและเครื่องปรุงก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย ทดลองทำทานที่บ้านได้ครับ

ผัดฉ่าปลากะพง
ส่วนผสม
ปลากะพง 80 กรัม
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชัซอย 220 กรัม
ใบมะกรุด 10 กรัม
พริกไทยอ่อน 10 กรัม
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 20 กรัม
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ซิอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ใบกระเพรากรอบ 10 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ทอดปลากะพงให้สุกเหลือง แล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2.เจียวกระเทียม พริกขี้หนู รากผักชี ใบมะกรูด พริกไทยอ่อนเข้าด้วยกัน จากนั้นให้เติมน้ำซุป น้ำตาล ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ผัดต่อไปให้เข้ากัน
3.นำส่วนผสมที่ผัดจนได้ที่ดีแล้ว มาราดบนปลากะพงที่เราเตรียมไว้ เสิร์ฟได้ทันที


ที่มา ภาพและข้อมูลจาก นิตยสาร Slimming jun 2011

23 มิถุนายน 2554

ข้าวหมกปลา

เมนูปลาสูตรนี้ เครื่องปรุงอาจจะเยอะสักหน่อย แต่ถ้าลองทำเสร็จแล้วรับรองว่าอร่อยคุ้มแน่ๆครับ ทดลองทำทานที่บ้านได้ครับ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายและดีต่อสุขภาพ

ข้าวหมกปลา

ส่วนผสม
ข้าวสารกล้อง 3 ถ้วย
เนื้อปลาจะละเม็ดดำแล่เป็นชิ้น 500 กรัม
ลูกผักชีคั่วบดละเอียด 1 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วบดละเอียด 11 ช้อนชา
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
ขิงแก่สับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นผง 11 ช้อนชา
ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
ลูกกรขัวานป่น 1 ช้อนชา
พริกชี้ฟ้าแดงบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 2 ช้อนชา
มันฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยม 1 หัว
พริกไทยป่น 11 ช้อนชา
อบเชยป่น 11 ช้อนชา
มะเขือเทศลูกเล็กผ่าครึ่ง 10-15 ลูก
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 3 ช้อนโต๊ะ
ใบผักชี ½ ถ้วย
หอมเล็กเจียว 11 ถ้วย
น้ำเปล่า 4 1/2 ถ้วย


วิธีทำ
1.หมักเนึ้อปลากับโยเกิร์ต ขิง ผงกะหรี่ พริกไทย อบเชย กระเทียม ลูกผักชี ยี่หล่า ขมิ้น ลูกกระวาน
พริกชี้ฟ้า และเกลือเข้าด้วยกัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
2.จากนั้นตั้งกระทะพอร้อน ใส่เนยสด และน้ำมันลงไป ตามด้วยมันฝรั่งผัดให้สุกแล้วตักใส่ในหม้อหุงข้าว
3.ทอดปลาที่หมักไว้ให้เหลือง (ใช้น้ำมันส่วนที่เหลือตักใส่หม้อหุงข้าว โรยหอมเล็กเจียวประมาณ 2 ช้อนโต๊
ลงไป
4.ซาวข้าวในน้ำหนึ่งครั้ง แล้วผัดกับน้ำมันที่เหลือจากการทอดปลา คลุกเคล้าจนเมล็ดข้าวมีสีเหลืองทั่ว ตักใสjหม้อข้าวที่มีมันฝรั่ง ปลาทอด และหอมเล็กเจียว
5.เติมน้ำลงไป ปิดฝาหุงไปประมาณ 10 นาที เปิดฝาหม้อ ใส่มะเขือเทศลงไป เคล้าพอเข้ากันแล้ว
หุงต่อจนข้าวสุก ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยหอมเล็กเจียวส่วนที่เหลือ แต่งด้วยใบผักชี รับประทานกับน้ำจิ้มข้าวหมกปลา

น้ำจิ้มข้าวหมกปลา
ส่วนผสม
น้ำตาลทราย ¾ ถ้วย
น้ำส้มสายซู ½ ถ้วย
เกลือ 2 ช้อนชา
พริกชี้ฟัาเขียวบดละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลีอเข้าด้วยกันตั้งไฟให้ละลาย ใส่พริกชี้ฟ้าลงไป คนพอเข้ากัน ยกลง
พักไว้ รับประทานคู่กับข้าวหมกปลา

31 พฤษภาคม 2554

ปลาช่อนนึ่งจิ้มแจ่ว

เมนูปลา เมนูนี้เป็นสูตรที่หลายๆคนคงจะชอบใจเพราะเป้นอาหารที่ทำจากปลาช่อนรสชาติ อร่อย จัดจ้าน
ลองมาดูวิธีทำกันเลยครับ

ปลาช่อนนึ่งจิ้มแจ่ว

ส่วนผสม
ปลาช่อนหนักประมาณ 350 กรัม 1 ตัว
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนชา
ใบมะกรูด 3-4 ใบ
ข่าหั่นแว่น 2-3 แว่น
ตะไคร้ท่อน ทุบ 1 ต้น
ใบโหระพา 3-4 กิ่ง

วิธีทำ
1.ทำความสะอาดปลา ขอดเกล็ดปลาผ่าท้องตัดหัวเอาก้างออก ล้างให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2.นำราผักชี กระเทียมพริกไทย ที่โขลกแล้วมาผสมกับซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย นำไปราดบนตัวปลาช่อน คลุกเคล้าทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที
3.เรียง ข่าตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโหระพาลงในลังถึง ใส่ปลาช่อน ที่หมักได้ที่แล้วลงไป นึ่งที่น้ำเดือด 8-10 นาที พอสุกจัดปลาใส่จาน กินกับน้ำจิ้ม

ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
พริกขี้หนูเขียว-แดง 10 เม็ด
พริกชี้ฟ้าแดงเผา 3 เม็ด
หอมแดงเผา 2-3 หัว
กระเทียมเผา 4-5 กลีบ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1.โขลกพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู หอมแดง กระเทียมให้เข้ากัน ใส่มะเขือเทศโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
2.ปรุงรส ด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย จัดใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

16 เมษายน 2554

ผัดพริกขิงปลาดุกฟู

ผัดพริกขิงปลาดุกฟู
การผัดนั้น ควรชิมก่อนปรุงรส เนื่องจากน้ำพริกแกงจะมีความเค็มในตัวและเค็มจากกุ้งแห้งด้วย เมื่อผัดปรุงรสแล้ว ใส่ปลาดุกฟูทีหลัง ผัดเคล้าให้เข้ากัน เพื่อคงความกรอบไว้

ส่วนผสมผัดพริกขิงปลาดุกฟู
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกแกงเผ็ดที่โขลก 1/4 ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
ถั่วฝักยาวหั่นเฉียง 3 ฝัก
ข้าวโพดอ่อนหั่นท่อนขนาด 1 1/2 นิ้ว ผ่า 4 ส่วน 3 ฝัก
น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
ใบมะกรูดทอดกรอบสำหรับโรย
ปลาดุกย่าง 1 ตัว น้ำมันพืช 2 ถ้วย

เครื่องแกงผัดพริกขิงปลาดุกฟู
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม 5 เม็ด
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแตงหั่น 3 หัว กะปิ 2 ช้อนชา
กุ้งแห้งป่น 3 ช้อนโต๊ะ

1. ทำปลาดุกฟูโดยแกะเนื้อปลา เอาหนังออก สับเนื้อปลาให้ละเอียด ผึ่งลมสักครู่จนเนื้อปลาแห้งหมาด จากนั้น ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อนจัด ใสเนื้อปลาดุกลงทอดทีละน้อยจนฟูเหลืองกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน
2. ทำน้ำพริกแกงเผ็ดโดยโขลกพริกแห้งกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงโขลกรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟอ่อน ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก ผัดพอหอมใส่ถั่วฝักยาว ข้าวาโพดอ่อน และน้ำ เร่งเป็นไฟกลาง ผัดพอทั่วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสให้เค็มหวาน ใส่ใบมะกรูดและปลาดุกฟู ผัดเคล้าให้เข้ากันดี ปิดไฟ
4. ตักใส่จานโรยใบมะกรูดทอดกรอบ เสิร์ฟ



18 มีนาคม 2554

เบอร์เกอร์ปลาทู

เบอร์เกอร์ปลาทู
ปลาทูนั้นเป็นปลาทะเล มีคุณค่าทางอาหารสูง ใช้ทำอาหารได้หลายประเภท การเลือกปลาทูต้องเลือกสดๆ ตาใส กลมนูนขึ้น เหงือกมีสีชมพูหรือแดงสด ไม่ซีด ท้องปลาไม่แตก และไม่บวม

ส่วนผสมของเบอร์เกอร์ปลาทู
ปลาทูสด (ตัวละ 100 กรัม) 5 ตัว
รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือก 20 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกล็ดขนมปังป่น 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
ขนมปังเบอร์เกอร์ 4 ก้อน
ผักกาดหอมหรือผักกาดแก้ว 1 ต้น
มะเขือเทศหั่นแว่น 2 ลูก
แตงกวา ปอกเปลือกสไลซ์แผ่นบาง 2 ลูก
มายองเนส ซอสมะเขือเทศ
และมัสตาร์ดชนิดครีม

1. ล้างปลาทู ควักเหงือกและไส้ออก ล้างให้สะอาด แผ่เนื้อปลาทั้งสองด้าน แล้วลอกหนัง
ออก สับให้ละเอียด ตักใส่อ่างผสม
2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่อ่างเนื้อปลา ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ และน้ำตาล เคล้าให้เข้ากัน แบ่งเนื้อปลาที่ผสมเป็น 4 ก้อนเท่า ๆกัน ปั้นเป็นก้อนกลมๆ บน เส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว คลุกเกล็ดขนมปังให้ทั่ว
3. ตั้งกระทะก้นแบนบนไฟกลาง ใส่น้ำมัน พอร้อน ใส่เบอร์เกอร์ปลาที่ปั้นลงทอดให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน
4. วิธีจัดเสิร์ฟ เตรียมขนมปังเบอร์เกอร์ 1 ก้อน ใส่ผักกาดหอมหรือผักกาดแก้วตรงกลางวางมะเขือเทศ ใส่เบอร์เกอร์ปลาทู 1 ชิ้น วางแตงกวา ประกบด้วยขนมปังเบอร์เกอร์ ทำจนหมด เสิร์ฟกับมายองเนส ซอสมะเขือเทศ และมัสตาร์ดชนิดครีม


17 มีนาคม 2554

ผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู

ผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
การทำกากหมูเจียวเพื่อเป็นส่วนผสมในผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมูนั้น ควรหั่นมันหมูให้เป็นชิ้นเล็ก เพราะกากหมูจะเหลือง กรอบ น้ำมันหมูที่เจียวแล้ว นำมาทอดปลาจะทำให้ปลามีกลิ่นหอม และมีความฉ่ำนุ่ม

ส่วนผสมผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
ปลาช่อน (550 กรัม) 1 ตัว
มันหมูแข็งหั่นขนาด 2x2 ซม. 250 กรัม
น้ำ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยอ่อนเด็ดช่อสั้น 2 ช่อ
ถั่วฝักยาวหั่นเฉียงลวกแล้วแช่น้ำเย็นจัด 4 ฝัก
พริกชี้ฟัาสีแดงและเขียวหั่นเฉียง 2 เม็ต
ใบมะกรูดทอดสำหรับตกแต่ง

เครื่องแกงผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
พริกแห้งเม็ดใหญ่ทั้งเมล็ดแช่น้ำจนนุ่ม 5 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 15 เม็ด
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
รากผักชีหั่น 2 ราก
พริกไทยขาวเม็ด 1/4 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 2 ช้อนชา

วิธีทำผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักใว้
2. ขอดเกล็ดปลา ผ่าท้อง ควักไส้และดีออก ล้างเคล้าเกลือจนหมดเมือก ล้างให้สะอาด แล่เนื้อปลาทั้งสองด้าน หั่นเป็นชิ้นเฉียงหนา 1 นิ้ว ซับน้ำให้แห้ง
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่มันหมูลงเจียว หมั่นคนจนมีสีเหลืองกรอบ และมีน้ำมันออกจนหมด ตักกากหมูขึ้นใส่ปลาช่อนลงทอดจนสุกเหลืองทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ตักน้ำมันที่ทอดปลาออกจนเหลือ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำพริกแกงที่โขลกลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่น้ำ ผัดพอทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาล ชิมรสให้ออกเค็มหวาน ใส่พริกไทยอ่อน ถั่วฝักยาวลวก และปลาทอด ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว ใส่กากหมูเจียว และพริกชี้ฟ้า ผัดพอทั่ว ปิดไฟ
5. ตักผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมูใส่จาน ตกแต่งด้วยใบมะกรูดทอด เสิร์ฟ


16 มีนาคม 2554

ผัดมะระปลาเค็ม

ผัดมะระปลาเค็ม
เมนูปลาวันนี้เราจะใช้ปลาที่ผ่านการถนอมอาหารมาแล้วนั่นคือ ปลาเค็ม การเลือกปลาเค็มนั้นให้ใช้ปลาอินทรีเค็มที่เนื้อมีสีขาวออกชมพูอ่อนๆ ไม่มีผลึกเกลือเกาะ ดมแล้วมีกลิ่นหอม เมื่อนำมาทอดเนื้อปลาจะร่วน มัน หอมอร่อย รสไม่เค็มมัน ส่วนมะระจีนลวกแล้วตักแช่น้ำเย็นทันทีจะทำให้มะระกรอบ และการลวกจะทำให้รสขมบางส่วนออกไปด้วย




ส่วนผสมของผัดมะระปลาเค็ม
มะระจีน (600 กรัม) หั่นบาง 1 ลูก
ปลาอินทรีเค็ม (50 กรัม) 1 ชิ้น
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย+3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยสับ 1 ช้อนใต๊ะ
น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
กระเทียมเจียว

1. ลวกมะระในหม้อน้ำเดือดด้วยไฟแรง แล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็นทันทีเพื่อให้มะระกรอบ
2. ทอดปลาเค็มในกระทะกับน้ำมัน ½ ถ้วยด้วยไฟกลางจนสุกเหลือง ตักขื้น หั่นเนื้อปลาเค็มเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันที่เหลือ พอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดพอเหลืองหอม ใส่ปลาเค็มทอด มะระลวก และน้ำ ผัดด้วยไฟแรงอย่างเร็วให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ผัดพอทั่วปิดไฟ
4. ตักผัดมะระปลาเค็มใส่จาน โรยกระเทียมเจียว ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเส้น เสิร์ฟร้อน ๆ


9 มีนาคม 2554

ปลากะพงหลงน้ำ

ปลากะพงหลงน้ำ
ปลากะพงหลงน้ำเป็นปลากะพงทอด ราดด้วยน้ำต้มยำน้ำข้นคือใส่กะทิ รสชาติออกเปรี้ยวเค็มหวานกลมกล่อม เพราะว่าใส่น้ำกระเทียมดองลงไปด้วย น้ำกระเทียมดองจะให้รสหวาน น้ำกระเทียมดองใหม่ๆ จะมีสีเหลืองใส

ส่วนผสมของปลากะพงหลงน้ำ
ปลากะพงขาว (600 กรัม) 1 ตัว
น้ำมันพืช 4 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
ข่าอ่อนหั่นแว่น 5 ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนทุบ 2 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำกระเทียมดอง 1/4 ถ้วย
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ½ ช้อนโต๊ะ
เห็ดฟางหั่นบาง 6 ดอก
ตะไคร้ซอยฝอย 3 ต้น
ข่าอ่อนซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนทุบ 5 เม็ด

1.ทำความสะอาดปลา ขอดเกล็ด ผ่าท้อง ล้างให้สะอาด บั้งห่างๆ ทั้งสองด้านโดยเอียงมีดเล็กน้อย จากนั้นตั้งกระทะใช้ไฟกลาง จนน้ำมันร้อนจัด ใส่ปลาลงทอดจนสุกทั้งสองด้าน ตักพักให้สะเด็ดน้ำมัน
2.ต้มกะทิในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ต้มสักครู่จนมีกลิ่นหอม ตักข่าตะไคร้ใบมะกรูดออก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำกระเทียมดอง เกลือ น้ำมะนาว ใส่เห็ดฟาง เคี่ยวจนเห็ดสุก ใส่ตะไคร้ซอย ข่าซอย ใบมะกรูดซอย พริกขี้หนู ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มกลมกล่อม
3. นำปลาทอดใส่จาน หรือหม้อไฟ เอาน้ำต้มยำราด ก็จะได้ปลากะพงหลงน้ำ เสิร์ฟร้อนๆ


5 มีนาคม 2554

ปลากะพงทอดราดน้ำปลา

ปลากะพงทอดราดน้ำปลา
ปลากะพงทอดราดน้ำปลาเป็นเมนูปลาอีกแบบหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ เนื่องจากจะมีรสชาติทั้งหวาน เปรี้ยว เผ็ดและเค็ม กลมกล่อม ซึ่งส่วนผสมและวิธีทำมีดังต่อไปนี้

ส่วนผสมของปลากะพงทอดราดน้ำปลา
ปลากะพง (เลือกขนาด 800 กรัมขึ้นไป) 1 ตัว
น้ำมันพืช 4 ถ้วย
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำเย็นจัด 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมน้ำยำสำหรับปลากะพงทอดราดน้ำปลา
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น 1/4 ถ้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 1/4 ถ้วย
น้ำปลาปรุงรสสำหรับปลากะพงทอดราดน้ำปลา
น้ำมันที่ทอดปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี้บ 1 1/4 ช้อนชา

1.ทำความสะอาดปลา ล้างให้สะอาด แล่เนื้อปลาทั้งสองด้านออกหั่นเป็นชิ้นหนา 1 ½ นิ้ว ซับน้ำมันให้แห้ง เก็บก้างปลาไว้ทอดรองเนื้อปลา
2.ตั้งกระทะน้ำมันไฟร้อนปานกลาง จากนั้นผสมแป้งทอดกรอบ แป้งสาลี ซอสปรุงรส พริกไทยป่น และน้ำเย็นจัด เข้าด้วยกันในอ่างผสมเอาเนื้อปลาลงคลุกเคล้า พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อปลาทอดจนสุกเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมัน ต่อจากนั้นเอาก้างปลาลงทอดต่อจนเหลืองกรอบ พักไว้
3. ทำน้ำยำโดยผสมเครื่องปรุงต่างๆ
4. ทำน้ำปลาปรุงรส โดยใส่น้ำมันทอดปลา น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บลงในกระทะเคี่ยวด้วยไฟอ่อนพอน้ำตาลละลาย ใส่เนื้อปลาทอดลงผัดเคล้าให้เข้ากัน ตักวางบนก้างปลาทอด เสิร์ฟกับน้ำยำ เพียงเท่านี้ก็จะได้ปลากะพงทอดราดน้ำปลา รสชาติอร่อยไว้รับประทานเป็นอาหาร และสามารถเป็นกับแกล้มได้ด้วย

24 กุมภาพันธ์ 2554

ปลาทอดกระชายกรอบ

ปลาทอดกระชายกรอบ
กระชายเป็นพืชสมุนไพร ช่วยในการบำรุงกระดูก ตับไต ปรับระดับความดันให้อยู่ในระดับกลาง บำรุงสมอง ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองดีขึ้น และปลาเองก็เป็นโปรตีนมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมนูนี้จึงเป็นเมนูที่น่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว

ส่วนผสมของปลาทอดกระชายกรอบ
ปลากะพง (500 กรัม) 1 ตัว
น้ำมันพืช 4 ถ้วย
แป้งมัน 1/4 ถ้วย
กระชายซอยเป็นเส้น 1 ถ้วย
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดฉีก 20 ใบ
ตะไคร้ทุบฉีกฝอย 4 ต้น
พริกขี้หนูแห้งทอด 10 เม็ด
ถั่วลิสงทอดเราะเปลือกออก 1/4 ถ้วย
ส่วนผสมของน้ำยำปลาทอดกระชายกรอบ
น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย+1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี้บ 1/4 ถ้วย
พริกป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำปลาทอดกระชายกรอบ

1. ทำความสะอาดปลาโดยขอดเกล็ดปลา ผ่า
ท้อง ควักไส้ออก ล้างให้สะอาด แผ่เนื้อปลาสองด้าน เอียงมีดหั่นเป็นชิ้นหนา 1 นิ้ว เก็บก้างปลาไว้ทอดรองเนื้อปลา
2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน เคล้าเนื้อปลากับแป้งมันให้ทั่ว ใส่ลงทอดจนสุกเหลืองตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่ก้างปลาลงทอดต่อจนเหลืองกรอบ ตักขึ้น จากนั้นเคล้ากระชายกับแป้งทอดกรอบในถ้วยให้เข้ากัน ใส่ลงทอดให้กระจายทั่วน้ำมัน ทอดจนเหลืองตักขื้น ใสใบมะกรูดและตะไคร้ลงทอดต่อทีละอย่างจนกรอบ ตักขื้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมะขามเปียก น้ำาปลา น้ำตาล และพริกป่น เข้าด้วยกันในหม้อ ยกขึ้น
ตั้งบนไฟอ่อน เคี่ยวให้น้ำตาลละลาย ชิมรสให้เปรี้ยวหวานเค็ม ตามชอบ
4. จัดเนื้อปลาทอดวางบนก้างปลาทอด วางเครื่องสมุนไพรทอดทั้งหมด พริกขี้หนูแห้งทอด
และถั่วลิสงทอด บนเนื้อปลา เสิร์ฟกับน้ำยำ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ปลาทอดกระชายที่รับประทานอร่อยและมี
ประโยชน์มากมาย
กระชาย

23 กุมภาพันธ์ 2554

ยำปลาช่อนทอดพริกเผา

ยำปลาช่อนทอดพริกเผา
เมนูปลาสูตรนี้ ใช้นำยำที่มีส่วนผสมทั้งน้ำพริกเผาและพริกแห้งเผาเพื่อเพิ่มความเผ็ดหอม ได้รสเปรี้ยวจากมะม่วงเปรี้ยว และจากสมุนไพรซอยต่างๆ

ส่วนผสมของยำปลาช่อนทอดพริกเผา
ปลาช่อน (500 กรัม) 1 ตัว
น้ำมันพืช 4 ถ้วย
แครอทหั่นแท่งเล็ก 1/4 ถ้วย
ตะไคร้ซอย 4 ต้น
หอมซอย 2 หัว
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว 2 ต้น
มะม่วงเปรี้ยว เช่น แก้ว น้ำดอกไม้ สับ 1 ถ้วย
เม็ตมะม่วงหิมพานต์ทอดสำหรับโรยหน้า 1ถ้วย

สูตรน้ำยำของยำปลาช่อนทอดพริกเผา
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 31/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ +1 ช้อนชา
พริกขี้หนูแห้งคั่วโขลกหยาบ 1 ช้อนชา

วิธีทำยำปลาช่อนทอดพริกเผา
1. ทำปลาให้สะอาดเรียบร้อยด้วยการขอดเกล็ด ผ่าท้อง ควักไส้และดีออก เคล้าเกลือ ล้างในหมดเมือก หั่นเป็นแว่นหน้าประมาณ 2 เซนติเมตร ส่วนหัวปลาตัดปากออก ผ่าเป็น 4 ชิ้น ซับน้ำให้แห้ง จากนั้นตั้งกระทะน้ำมันจนร้อนจัด ใส่ปลาลงทอดให้สุกเหลืองกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมัน

2. ทำนำยำ โดยใส่ส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ

3. ใส่ปลาช่อนทอด แครอท ตะไคร้ หอมซอย และขึ้นฉ่ายในอ่างผสม ราดน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่มะม่วงสับ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตักใส่จาน

เท่านี้เราก็จะได้ยำปลาช่อนทอดพริกเผารสชาติจัดจ้านแซบไว้รับประทานเรียบร้อยแล้ว

16 กุมภาพันธ์ 2554

ยำปลาทูฟู

ยำปลาทูฟู
เมนูปลาจานนี้นำปลาทูที่ทุกคนรู้จักกันดีมาประยุกต์ให้เป็นจานยำแสนอร่อย รสชาติจัดจ้าน รับประทานได้ทั้งเป็นกับข้าวและรับประทานเล่น หรือจะรับประทานเป็นอาหารลดน้ำหนักก็ได้เช่นกัน


ส่วนผสมของยำปลาทูฟู
ปลาทูนึ่งเลือกที่เนื้อนุ่ม (กดเนื้อจะนิ่มๅ) (ตัวละ 100 กรัม) 3 ตัว
น้ำมันพืช 3 ถ้วย
เกล็ดขนมปังป่น 1/4 ถ้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด

ส่วนผสมของน้ำยำปลาทูฟู
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย
พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงเปรี้ยวสับ 1/4 ถ้วย

วิธีทำยำปลาทูฟู
1. แกะเนื้อปลาทู เอาหนังออก สับให้ละเอียด ใส่จาน ผื่งไว้พอให้เนื้อปลาแห้งหมาด
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันโดยใช้ไฟแรงปานกลางจนกระทั่งน้ำมันร้อนจัด นำเนื้อปลามาผสมกับเกล็ดขนมปังพอทั่ว ใส่ลงทอดทีละน้อยให้ฟูเหลืองกรอบ ดังขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ทำน้ำยำโดยผสมน้ำมะนาว น้าปลา และน้ำตาล เข้าด้วยกันในถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย ใส่กุ้งแห้ง หอมแดง พริกขี้หนู มะม่วงเปรี้ยว ชิมให้ได้รสตามชอบ
4. จัดผักรองจานแล้วนำปลาทูฟูที่ทอดเรียบร้อยมาวาง ราดน้ำยำ โรยด้วยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด เสิร์ฟ