ต้มกะทิสายบัวปลานูนึ่ง

ต้มกะทิสายบัวเป็นแกงแบบไทยๆ เปรี้ยวน้อยๆโดยใช้มะดัน

ส่วนผสม
1. ปลาทูนึ่ง 3 ตัว
2. สายบัว 3 สาย ลอกเปลือกออกหั่นเป็นท่อนสั้น 3 สาย
3. มะดัน 5 ผล
4. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 2 ช้อนโต๊ะ
7. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
8. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
9. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
10. มะพร้าวขูดเอาแต่ส่วนขาวๆ 1/2 กิโลกรัม

วิธีทำ
1. นำมะพร้าวมาคั้นกะทิ ให้ได้หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง และ หางกะทิ 3 ถ้วยตวง
2. โขลกพริกไทย หอมแดง กะปิให้ละเอียด
3. ละลายเครื่องที่โขลกกับหางกะทิ 3 ถ้วยตวงให้ละลาย
4. นำไปตั้งไฟพอเดือด ระหว่างที่ตั้งไฟต้องหมั่นคนเพื่อไม่ให้กะทิไหม้ แล้วใส่สายบัว มะดันพอมะดันสุก เอาเม็ดออก
5. ตั้งไฟพอสายบัวนิ่ม แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ น้ำมะขามเปียก คนให้ละลายชิมรส เปรี้ยว เค็ม หวาน
6. เมื่อได้รสที่ต้องการแล้ว ใส่ปลาทูนึ่ง หัวกะทิคนพอเข้ากัน ยกลง ตักต้มกะทิสายบัวปลานูนึ่งใส่ถ้วยเสิร์ฟ พร้อมข้าวสวยนุ่มๆ ร้อนๆ

เมนูปลา ปลาสำลีแดดเดียว

ส่วนผสม
1.ปลาสำลีขอดเกล็ดออกควักไส้ออกผ่าครึ่งตัดขนาด ครึ่งกิโลกรัม 1 ตัว
2. เกลือ 2 ช้อนชา
3. มะม่วงดิบซอยฝอย 1 ถ้วยตวง
4. หอมแดงซอยบางๆ 1/2 ถ้วยตวง
5. ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 1/4 ถ้วยตวง
6. พริกขี้หนูหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
7. มะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง
8. น้ำมะนาว 1/2 ถ้วยตวง
9. น้ำปลาดี 1/4 ถ้วยตวง
10. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมันสำหรับทอด


วิธีทำเมนูปลา ปลาสำลีแดดเดียว
1. ล้างปลาให้สะอาด นำผ้าซับให้เนื้อปลาแห้ง จากนั้นนำเกลือไปโรยบนตัวปลาให้ทั่วทั้ง 2 ด้าน นำไปผึ่งแดด ประมาณ  2 ชั่วโมง
2. นำกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่น้ำมันกะให้ท่วมปลา แล้วเอาปลาลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดปลาลงจานพร้อมเสิร์ฟ
3. ผสมน้ำยำสำหรับราดปลา คือ ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกขี้หนูซอย คนให้เข้ากัน ชิมรส เปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ราดบนตัวปลา หรือตักใส่ถ้วยต่างหาก เสิร์ฟคู่กับมะม่วงหิมพานต์

ปลาอินทรีต้มซีอิ๊ว

ส่วนผสมปลาอินทรีต้มซีอิ๊ว
1. ปลาอินทรีหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 300 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าหั่นเป็นเส้นสำหรับแต่งหน้า

วิธีทำ
1. คลุกปลากับน้ำมันพืชเข้าด้วยกัน พักไว้
2. ใส่น้ำตาลทรายลงในกระทะ ตั้งไฟอ่อนๆ จนน้ำตาลละลายเป็นคาราเมล แล้วเติมน้ำเปล่าครึ่งถ้วยลงไป
3. ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ในข้อแรกลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริกไทย และซีอิ๊วดำ คนให้เข้ากัน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้น้ำงวดประมาณ 20 นาที ตักปลาอินทรีต้มซีอิ๊วเสิร์ฟได้เลย ก่อนเสิร์ฟโรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าและใบผักชี (ถ้าใครอยากใช้ปลาทูสดทั้งตัวแทนปลาอินทรีก็ได้ แต่ต้องลดระยะเวลาในการต้มลงเพื่อไม่ให้เนื้อปลาเละ)

เมนูยำปลาดุกฟู

เมนูยำปลาดุกฟูนี้ เป็นอีกหนึ่งเมนูปลาแบบยำๆ ที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานเผ็ดเค็ม คนนิยมรับประทาน สามารถทำแค่ยำปลาดุกฟูขายก็สามารถรวยได้

ส่วนผสม
ปลาดุกย่าง 4 ตัว
มะม่วงดิบชอย 1 ถ้วยตวง
เกล็ดขนมปัง 1ถ้วยตวง
หอมแดงซอย 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วลิสงหรือมะม่วงหิมพานต์ทอด 1/2 ถ้วยตวง
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อนสั้นๆ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันสำหรับทอค

ส่วนผสมน้ำยำ
พริกขี้หนูสวน  25 เม็ด
กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี 1 ช้อนโตะ
น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโด๊ะ

วิธีทำทำยำปลาดุกฟู
1.โขลกรากผักชี กระเทียมก่อน พอหยาบๆ แล้วใส่พริกขี้หนูบุบ หรือพริกขี้หนูซอยก็ได้
2. ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ

วิธีทอดปลาทำยำปลาดุกฟู
1. ปลาดุกย่างแล้วแกะเอาก้างออก สับโขลกให้เนื้อฟู ผสมน้ำมันพอควร
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะพร้อมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ตั้งไฟพอให้น้ำมันร้อน
3. ผสมเกล็ดขนมปังลงในปลาดุกคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักลงในกระทะทีละ 1 ทัพพี ใช้ตะหลิวเขี่ยให้กระจาย
4. พอเหลือง ตักปลาดุกฟูขึ้นใส่จาน
5. เวลาจะทานก็โรยหน้าด้วยมะม่วงซอย หอมแดงซอย ถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ผักขึ้นฉ่ายแล้วราดน้ำยำ

ต้มยำปลากระบอกน้ำข้น

ปลากระบอกเป็นปลาน้ำจืดมีรูปร่างโดยรวมเรียวยาวค่อนข้างกลมเป็นทรงกระบอก ปากเล็ก มีชื่อเรียกหลายชื่อตามแต่ละท้องถิ่น เช่น ภาคใต้ เรียกว่า กระเมาะ ละเมาะ ยมก หรือ มก
เมื่อนำปลากระบอกมาทำต้มยำก็ได้รสชาติอร่อยทีเดียว เรามาดูวิธีการทำและส่วนผสมกันได้เลย

ส่วนผสมต้มยำปลากระบอกน้ำข้น
1.ปลากระบอกหั่นขนาด  2 นิ้ว 500 กรัม
2.ข่าแก่หั่นเป็นแว่น 5-6 แว่น
3.ตะไคร้หั่นเป็นท่อนบุบพอแตก 2-3 ต้น
4.ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ
5.น้ำเปล่า 1 ถ้วย
6.กะทิ 2 ถ้วย
7.น้ำพริกเผา 1/4  ถ้วย
8.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
10.พริกขี้หนูบุบ 7-9 เม็ด
11.ใบผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำต้มยำปลากระบอกน้ำข้น
1. ผสมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันในถ้วย พักไว้
2. ใส่น้ำและกะทิลงในหม้อ ตามด้วยข่า ตะไคร้ใบมะกรูด ตั้งไฟพอเดือด จึงใส่ปลาลงไปต้มให้สุกแล้วลดเป็นไฟร้อนปานกลาง
3.ตักใส่ถ้วยที่มีเครื่องปรุงรสในข้อแรก โรยผักชี เสิร์ฟได้ทันที

เมนูปลาน้ำดอกไม้ต้มส้ม

เมนูปลาครั้งนี้ใช้ปลาน้ำดอกไม้เนื่องจากเนื้อปลาจะมีลักษณะขาวนุ่น แต่ถ้าหาไม่ได้ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ปลากระบอกแทนได้เช่นกัน

ส่วนผสมปลาน้ำดอกไม้ต้มส้ม
ปลาน้ำดอกไม้หั่นเป็นท่อนยาว 2 นิ้ว  2 ตัว
ขิงอ่อนซอย 1/4 ถ้วย
หอมเล็กหั่นหยาบ 2 หัว
รากผักชีหั่นหยาบ 2 ราก
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
กะปิ 1/2 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด 10-15 เม็ด
น้ำมะขามเปียก 5-6 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/4  ถ้วย
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
ต้นหอมหั่นท่อน 2 ต้น
ผักชีเด็ดใบ 1 ต้น

วิธีทำปลาน้ำดอกไม้ต้มส้ม
1. โขลกหอมเล็ก รากผักชี ตะไคร้ กะปิ และพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด
2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เครื่องที่โขลกไว้ในข้อแรกลงไปตามด้วยปลาและขิงอ่อน
3. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บชิมรสให้ได้สามรสหรือตามชอบ โรยต้นหอม ผักชี
ตักใส่ถ้วยรับประทานร้อนๆ ทันที

เมนูข้าวต้มปลา

ส่วนผสมเมนูข้าวต้มปลา
ข้าวสารกล้อง 2 ถ้วย
น้ำเปล่าสำหรับต้มข้าว 4-5 ถ้วย
ปลากะพงแดงหั่นเป็นชิ้นพอคำ (หรือปลากะพงขาว) 300 กรัม
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 5-6 ดอก
ตังฉ่าย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 15-20 เม็ด
น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
น้ำซุปปลา (หรือใช้น้ำเปล่าแทนได้) 3 ถ้วย
ต้นหอม ขึ้นฉ่ายซอย อย่างละ 2 ต้น
ขิงอ่อนซอย 1/4 ถ้วย
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวตามชอบ

วิธีทำเมนูข้าวต้มปลา
1. ใส่น้ำซุปปลาลงในหม้อตั้งไฟอ่อนๆไว้
2. ต้มข้าวสารกล้องกับน้ำเปล่าจนเมล็ดข้าวสุกนุ่ม ยกลงพักไว้
3. โขลกรากผักซี กระเทียม พริกไทยเข้าด้วยกันแล้วผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่เห็ดหอมลงผัดตามด้วยเนื้อปลา พอสุกจึงใส่ตังฉ่าย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น
4. ตักข้าวต้มใส่ถ้วย ตามด้วยปลากับเห็ดหอมที่ผัดไว้ราดด้วยน้ำซุปปลาที่ต้มไว้ในข้อแรก โรยต้นหอมขึ้นฉ่าย ขิง กระเทียมเจียว และพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว